วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ซอดองโย...สายใยรักสองแผ่นดิน

  ชื่อหนัง (เกาหลี/จีน/ญี่ปุ่น) : 서동요 / Seo Dong Yo
   ชื่อหนังอื่นๆ : Seo Dong's Song / Ballad of Seo Dong
   นักแสดง : Jo Hyun Jae, Lee Bo Young, Ryu Jin,
                      Koo Hye Sun, Han In Soo
   กำกับโดย : Lee Byung Hoon
    จำนวนตอน : 55
   ประเภท : Historical
    Written By : Kim Young Hyun
     ปี : 2005
    ออกอากาศ : 5 ก.ย. 2005 - 21 มี.ค. 2006
     ออกอากาศช่อง SBS ทุกวันจันทร์และวันอังคาร เวลา 21:55 น.
    ออกอากาศในไทย [1] : 16 ธ.ค. 2006 - 21 เม.ย. 2007
     Official Website : Seo Dong Yo
เนื้อเรื่องย่อ (Synopsis) :
                   ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับราชสำนักนั้นมักจะกล่าวถึงที่มาของการต่อสู้แย่งชิงจนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกร แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับกล่าวถึงคนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดเป็นใหญ่ เป็นพระราชาปกครองแผ่นดิน เพื่อทำความฝันของตัวเองให้กลายเป็นจริง จึงจำเป็นต้องสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระราชา พระราชาที่ปรากฏในเรื่องนี้นั้น เป็นพระราชาที่ไม่ใช่ผู้ชนะ
                 จากการต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ แต่เป็นนักปกครองที่เยี่ยมยอด ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงประวัติศาสตร์แคว้นแพ่กเจของประเทศเกาหลี เรื่องราวไม่เพียงกล่าวถึงราชสำนักและวิทยาการอันทันสมัยของแคว้นแพ่กเจ และเส้นทางชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆที่ต้องผ่าพันอุปสรรคนานัปการจนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกรของพระเจ้ามู(ค.ศ.600-641 (ตรงกับปลายราชวงศ์สุย ต้นราชวงศ์ถังของจีน)) เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงเรื่องราวความรักของพระเจ้ามู(ซอดง)กับองค์หญิงซันวาผู้เลอโฉมอีกด้วย

                     ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงประวัติศาสตร์แคว้นแพ่กเจของประเทศเกาหลี เรื่องราวไม่เพียงกล่าวถึงราชสำนักและวิทยาการอันทันสมัยของแคว้นแพ่กเจ และเส้นทางชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆ
ที่ต้องผ่าพันอุปสรรคนานัปการจนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกรของพระเจ้ามู(ค.ศ.600-641 (ตรงกับปลายราชวงศ์สุย ต้นราชวงศ์ถังของจีน)) เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงเรื่องราว
ความรักของพระเจ้ามู(ซอดง)กับองค์หญิงซันวาผู้เลอโฉมอีกด้วย

                     พระเจ้าวีต๊กพระราชาลำดับที่ 27 ของแคว้นแพ่กเจ (ค.ศ. 578) หนึ่งวันก่อนพิธีบวงสรวง ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พระราชาจะต้องชำระล้างพระวรกายให้สะอาดหมดจด จะใกล้ชิดสตรีไม่ได้ ซึ่งเรียกกันว่าการครองพรมจรรย์ แต่ในคืนนั้นเอง ความงดงามของนางรำ ทำให้พระเจ้าวีต๊กไม่สามารถห้ามพระทัยไว้ได้ ทำให้พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์กับนางรำ ด้วยเรื่องนี้เองทำให้บูยอซุนซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าวีต๊ก รวมทั้งเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงในราชสำนักพากันคัดค้านไม่เข้าร่วมพิธีบวงสรวง พระเจ้าวีต๊กทรงปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีรับสั่งขับไล่นางรำออกจากวังหลวง ต่อมา นางรำก็ให้กำเนิดพระโอรส เนื่องจากนางขายมันเทศเลี้ยงชีพ เด็กคนนี้จึงมีชื่อว่าซอดง เดิมทีเด็กคนนี้มีชื่อว่าอาชาง (บูยอชาง) ในสมัยที่ซอดงเป็นเด็กนั้นถูกคนในหมู่บ้านมองว่าเป็นเด็กปิศาจ ที่มักจะนำหายนะและภัยพิบัติมาให้หมู่บ้าน

                    พระเจ้าวีต๊กพระราชาลำดับที่ 27 ของแคว้นแพ่กเจ (ค.ศ. 578) หนึ่งวันก่อนพิธีบวงสรวง ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พระราชาจะต้องชำระล้างพระวรกายให้สะอาดหมดจด จะใกล้ชิดสตรีไม่ได้ ซึ่งเรียกกันว่าการครองพรมจรรย์ แต่ในคืนนั้นเอง ความงดงามของนางรำ ทำให้พระเจ้าวีต๊กไม่สามารถห้ามพระทัยไว้ได้ ทำให้พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์กับนางรำ ด้วยเรื่องนี้เองทำให้บูยอซุนซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าวีต๊ก รวมทั้งเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงในราชสำนักพากันคัดค้านไม่เข้าร่วมพิธีบวงสรวง พระเจ้าวีต๊กทรงปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีรับสั่งขับไล่นางรำออกจากวังหลวง ต่อมา นางรำก็ให้กำเนิดพระโอรส เนื่องจากนางขายมันเทศเลี้ยงชีพ เด็กคนนี้จึงมีชื่อว่าซอดง เดิมทีเด็กคนนี้มีชื่อว่าอาชาง (บูยอชาง) ในสมัยที่ซอดงเป็นเด็กนั้นถูกคนในหมู่บ้านมองว่าเป็นเด็กปิศาจ ที่มักจะนำหายนะและภัยพิบัติมาให้หมู่บ้าน

                  ด้วยเหตุนี้เองยอนกาโมแม่ของซอดงจึงไหว้วานโมนาซูซึ่งเป็นมหาบัณฑิตในวังหลวงอบรมเลี้ยงดูซอดง เนื่องจากโมนาซูเป็นคนขององค์รัชทายาทอะจา ทำให้โมนาซูถูกตั้งข้อรังเกียจจากบูยอซุนซึ่งกำลังเรืองอำนาจอยู่ในขณะนั้น จนต้องซัดเซพเนจรไปทั่ว โมนาซูและซอดงต้องหลบหนีจากวังหลวง แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ที่แคว้นชิลลา ที่นั่นโมนาซูและซอดงสร้างโรงงานผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาบ อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาชนิดต่างๆ ซอดงศึกษาการปกครองจากโมนาซู ต่อมา ซอดงได้พบกับองค์หญิงซันวา ด้วยความเข้าพระทัยผิดขององค์หญิง ซันวา จึงนำภัยพิบัติมาสู่โมนาซูและซอดง สิบปีต่อมา ได้มีบทเพลงพื้นบ้านบทหนึ่งได้ร้อยเรียงเรื่องราวความรักของซอดงกับองค์หญิงซันวา ไม่เพียงเท่านั้น ชีวิตของคนทั้งสองยังต้องพัวพันกับซาเต็ดคิรูเชื้อพระวงศ์ของแคว้นชิลลาอีกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น